นโยบายเพื่อการเติบโตทางเศรษฐ
กิจของออสเตรเลีย
รายงานงบประมาณของรัฐบาลกลาง ปี 2560-61
ต่อไปนี้เราจะกล่าวถึงนโยบายที่สำคัญบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและมีผลกระทบต่อธุรกิจ
เนื่องจากเศรษฐกิจของออสเตรเลียเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและภาวะถดถอยของธุรกิจการทำเหมืองแร่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เข้ามามีบทบาทต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการเงินของรัฐบาล โดยในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการเงินปีนี้รัฐบาลได้เข้มงวดมากขึ้นกับธนาคารใหญ่ของออสเตรเลียทั้งห้าแห่ง ธุรกิจต่างชาติที่หลีกเลี่ยงภาษี แรงงานต่างชาติและนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตามงบประมาณนี้ก็เป็นผลดีในเรื่องของการเพิ่มงบประมานทางด้านสาธารณสุขและการศึกษา (โดยเฉพาะงบประมาณสนับสนุนโรงเรียน) การใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม และยังช่วยให้คนออสเตรเลียสามารถมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น
อัตราภาษีบริษัท
รัฐบาลมีนโยบายให้ความช่วยเหลือในภาคธุรกิจโดยการลดอัตราการเก็บภาษีบริษัททั่วไปจาก 30 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นและเป็นทิศทางที่ดีสําหรับออสเตรเลีย เพราะในขณะนี้ออสเตรเลียต้องแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศ และอัตราภาษีนิติบุคคลที่ยังไม่สามารถดึงดูดใจนักลงทุนต่างชาติได้เมื่อเทียบกับคู่ค้ารายใหญ่อื่นๆ และสถานการณ์นี้จะแย่ลงถ้าการบริหารของรัฐบาล ทรัมพ์ประสบความสำเร็จในการลดอัตราภาษีดอกเบี้ยในสหรัฐฯเป็น15 เปอร์เซ็นต์
แม้วุฒิสภาของออสเตรเลียจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการลดภาษีสักเท่าไร แต่เราเชื่อว่าแผนการลดภาษีรายได้ฉบับนี้สมควรที่จะได้รับการสนันสนุนอย่างเต็มที่และเราควรเน้นเรื่องการเก็บภาษีทางอ้อม อย่างเช่นการเก็บภาษี GST และออสเตรเลียควรจะมีระบบการเก็บภาษีที่เรียบง่ายและทันสมัยมากขึ้นเพื่อที่จะผลักดันการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีของ บริษัท สรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร
ภาษีเกี่ยวกับแรงงานต่างชาติ: วีซ่า 457
รัฐบาลประกาศว่าตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2561จะมีการเปลี่ยนแปลงวีซ่าใหม่แทนวีซ่า 457 ธุรกิจที่จ้างแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่าที่มีทักษะเฉพาะทางบางประเภทจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม การเรียกเก็บภาษีระบบใหม่จะต้องชำระเงินล่วงหน้าและเป็นประจำทุกปี สำหรับวีซ่าชั่วคราวที่ขาดแคลนแรงงาน
เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมและการเพิ่มค่าธรรมเนียมจากการขอวีซ่าเพราะสิ่งนี้จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจที่จะต้องพึ่งพาแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางจากต่างชาติ
ธุรกิจครอบครัว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับชุมชนชาวไทยที่มีธุรกิจขนาดเล็กก็คือรัฐบาลให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก โดยงบประมาณปีนี้ได้มุ่งความช่วยเหลือต่อธุรกิจขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน $10 ล้านเหรียญต่อปี
รัฐบาลยังดำเนินการต่อเนื่องที่จะลดภาษีและเพิ่มเกณฑ์รายได้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ผลจากการลดภาษีจะทำให้ธุรกิจมีแหล่งเงินทุนมากขึ้นเพื่อลงทุนกับการสร้างงานและนวัตกรรม แต่ถ้าธุรกิจคุณใช้เป็นแบบ family trust เพื่อปันผลกำไรให้บริษัท ในกรณีนี้ธุรกิจจะเสียภาษีเท่าเดิมในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้รัฐบาลยังคงอนุญาติให้บริษัทที่ลงทุนธุรกิจมีสิทธิที่จะได้รับการลดหย่อนภาษีทันทีในวงเงิน $20,000 ได้ต่อไปจนถึง 30 มิถุนายน 2561 และธุรกิจที่มีรายได้ไม่เกิน $10 ล้านสามารถ ทำการหักภาษี ได้เช่นกัน
ราคาที่อยู่อาศัย
รัฐบาลได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่ว่าจะให้ประชาชนในประเทศมีความสามารถที่จะซื้อที่อยู่อาศัยได้ ตามงบประมาณมีมาตรการที่ระบุถึงปัจจัยด้านอุปสงค์(ความต้องการของตลาด)และอุปทาน(สินค้าคือบ้านที่มีในตลาด)ให้มีความสมดุลย์กัน
บทความนี้ได้นำบางส่วนที่น่าสนใจจากงบประมาณ ปี 2560-61สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่: grantthornton.com.au
เกี่ยวกับผู้เขียน
สวัสดีค่ะ ดิฉัน เมย์ จึงภักดี เป็นคนไทยที่เกิดในออสเตรเลีย สำหรับการศึกษาระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์และอนุปริญญาภาษาจีนจากมหาวิทยาลัยแห่ง รัฐควีนสแลนด์ (University of Queensland) และล่าสุดได้จบหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกส์ฟอร์ด (University of Oxford) ปัจจุบันทำงานให้กับบริษัทแกรนท์ทอร์นตัน ในทีมงานภาษีนิติบุคคล
ที่แกรนท์ทอร์นตัน เรามีมุมมองสำหรับช่วยให้ลูกค้ามีการเติบโตและขยายตัวทางด้านธุรกิจเราจะให้การช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อลูกค้าเสมอ เราให้บริการต่างๆ เช่นงานตรวจสอบบัญชี ตรวจสอบภาษี และให้คำปรึกษา เรามีสำนักงานในบริสเบน แคนส ซิดนีย์ เมลเบิร์น แอดิเลด และ เพิร์ธ
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้ได้ช่วยให้ท่านเข้าใจถึงแนวทางการเงินและการเก็บภาษี ของงบประมาณปีนี้ และข้อมูลนี้คงอาจจะมีประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย หากท่านมีข้อสงสัยต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจหรือการวางแผนการเงินในอนาคต สามารถติดต่อเราได้
D +61 7 3222 0426
T +61 7 3222 0200
E may.jungpakdee@au.gt.com
L https://www.linkedin.com/in/
The information contained herein is of a general nature and is not intended to address the circumstances of any particular individual or entity. Although we endeavour to provide accurate and timely information, there can be no guarantee that such information is accurate as of the date it is received or that it will continue to be accurate in the future. No one is entitled to rely on this information and no one should act on such information without appropriate professional advice obtained after a thorough examination of the particular situation.
“Grant Thornton” refers to the brand under which the Grant Thornton member firms provide assurance, tax and advisory services to their clients and/or refers to one or more member firms, as the context requires. Grant Thornton Australia Ltd is a member firm of Grant Thornton International Ltd (GTIL). GTIL and the member firms are not a worldwide partnership. GTIL and each member firm is a separate legal entity.
Services are delivered by the member firms. GTIL does not provide services to clients. GTIL and its member firms are not agents of, and do not obligate one another and are not liable for one another’s acts or omissions. In the Australian context only, the use of the term ‘Grant Thornton’ may refer to Grant Thornton Australia Limited ABN 41 127 556 389 and its Australian subsidiaries and related entities. GTIL is not an Australian related entity to Grant Thornton Australia Limited.
Liability limited by a scheme approved under Professional Standards Legislation.